วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
แบบทดสอบก่อนเรียน9
แบบทดสอบก่อนเรียน 9
1. จีนสมัยราชวงศ์ชางมีความก้าวหน้าทางวิทยาการ มากกว่าอารยธรรมอื่นในสมัยเดียวกันในเรื่องใด
2. ในสมัยใดของจีนที่มีการสร้างสุสานของจักรพรรดิจิ๋นซี
3. ปรัชญาขงจื๊อ เล่าจื๊อ เกิดขึ้นมาในช่วงที่สังคมจีนมีสภาพเป็นอย่างไร
4. การคำนวณการเกิดแผ่นดินไหวและการเกิดจันทรุปราคา มีขึ้นในสมัยราชวงศ์ใดของจีน
5. สมัยใดของจีนที่มีการนำเปลือกหอยมาเป็นสื่อกลางในการซื้อขาย
6. ดินแดนใดเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของจีนเป็นเวลานาน
7. คัมภีร์พระเวทเป็นตำราที่เน้นเกี่ยวกับอะไร
8. เพราะเหตุใดชาวอารยันจึงห้ามการแต่งงานกับชาวดราวิเดียน
9. พระเวทที่ว่าด้วยระเบียบพิธีกรรมต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับคัมภีร์พรเวทในข้อใด
10. วรรณะใดที่เป็นผู้ผูกขาดการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9
แหล่งอารยธรรมโบราณในเอเชีย
- ก การใช้ตัวอักษรกึ่งภาพ
- ข การหล่ออาวุธด้วยสำริด
- ค การใช้กระดูกทำนายโชคชะตา
- ง การประดิษฐ์ปฏิทินระบบจันทรคติ
2. ในสมัยใดของจีนที่มีการสร้างสุสานของจักรพรรดิจิ๋นซี
- ก สมัยราชวงศ์ฮั่น
- ข สมัยราชวงศ์โจว
- ค สมัยราชวงศ์ฉิน
- ง สมัยราชวงศ์ชาง
3. ปรัชญาขงจื๊อ เล่าจื๊อ เกิดขึ้นมาในช่วงที่สังคมจีนมีสภาพเป็นอย่างไร
- ก มีความสงบสุข
- ข เกิดความแตกแยกวุ่นวาย
- ค มีการแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจน
- ง กษัตริย์ไม่ปฏิบัติตามอาณัติสวรรค์
4. การคำนวณการเกิดแผ่นดินไหวและการเกิดจันทรุปราคา มีขึ้นในสมัยราชวงศ์ใดของจีน
- ก ราชวงศ์ถัง
- ข ราชวงศ์ฉิน
- ค ราชวงศ์สุย
- ง ราชวงศ์ฮั่น
5. สมัยใดของจีนที่มีการนำเปลือกหอยมาเป็นสื่อกลางในการซื้อขาย
- ก ราชวงศ์ถัง
- ข ราชวงศ์ฮั่น
- ค ราชวงศ์ชาง
- ง ราชวงศ์หมิง
6. ดินแดนใดเคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของจีนเป็นเวลานาน
- ก ลาว
- ข พม่า
- ค เขมร
- ง เวียดนาม
7. คัมภีร์พระเวทเป็นตำราที่เน้นเกี่ยวกับอะไร
- ก ศิลปะ
- ข ศาสนา
- ค การปกครอง
- ง ประวัติศาสตร์
8. เพราะเหตุใดชาวอารยันจึงห้ามการแต่งงานกับชาวดราวิเดียน
- ก เพราะนับถือศาสนาต่างกัน
- ข เพราะชาวดราวิเดียนเป็นพวกเร่ร่อน
- ค เพราะขนบธรมเนียมประเพณีต่างกัน
- ง เพราะชาวอารยันมีจำนวนน้อยอาจถูกกลืนชาติ
9. พระเวทที่ว่าด้วยระเบียบพิธีกรรมต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับคัมภีร์พรเวทในข้อใด
- ก ฤคเวท
- ข ยชุรเวท
- ค สามเวท
- ง อถรรพเวท
10. วรรณะใดที่เป็นผู้ผูกขาดการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ
- ก วรรณะศูทร
- ข วรรณะแพศย์
- ค วรรณะกษัตริย์
- ง วรรณะพราหมณ์
แบบทดสอบก่อนเรียน8
แบบทดสอบก่อนเรียน 8
1. เพราะเหตุใดเอเชียตะวันออกจึงมีสภาพภูมิศาสตร์เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐาน
2. สมัยราชวงศ์ใดที่จีนรวบรวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่นแล้ว ปกครองเป็นจักรวรรดิ
3. จีนยังไม่ได้ปกครองแบบจักรวรรดิในสมัยราชวงศ์ใด
4. ญี่ปุ่นปิดแประเทศไม่ค้าขายกับชาวยุโรปทั้งหมดยกเว้น ข้อใด
5. ช่องเขาไคเบอร์เป็นเส้นทางสำคัญที่ชนกลุ่มต่างๆ ผ่านเข้าออกระหว่างเอเชียใต้กับภูมิภาคใด
6. อารยธรรมที่ตกทอดมาจากชาวอารยันคืออะไร
7. ข้อใดเป็นลักษณะภูมิอากาศของเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
8. ดินแดนรูปพระจันทร์เสี้ยวอยู่บริเวณใด
9. แหล่งที่รวมความเชื่อ ปรัชญา แหล่งกำเนิดศาสนาของโลก 3 ศาสนา อยู่ในบริเวณใด
10. จักรวรรดิอิสลามเริ่มเสื่อมอำนาจลงเมื่อใด
หน่วยการเรียนรู้ที่ 8
พัฒนาการของภูมิภาคต่าง ๆ ในเอเชีย
1. เพราะเหตุใดเอเชียตะวันออกจึงมีสภาพภูมิศาสตร์เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐาน
- ก ตั้งอยู่ในเขตอบอุ่น
- ข มีประชากรจำนวนมาก
- ค มีทางออกทะเลทุกด้าน
- ง มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน
2. สมัยราชวงศ์ใดที่จีนรวบรวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่นแล้ว ปกครองเป็นจักรวรรดิ
- ก ราชวง์โจว
- ข ราชวงศ์ชาง
- ค ราชวงศ์หมิง
- ง ราชวงศ์ฉิน
3. จีนยังไม่ได้ปกครองแบบจักรวรรดิในสมัยราชวงศ์ใด
- ก ราชวงศ์ฉิน
- ข ราชวงศ์ฮั่น
- ค ราชวงศ์ถัง
- ง ราชวงศ์โจว
4. ญี่ปุ่นปิดแประเทศไม่ค้าขายกับชาวยุโรปทั้งหมดยกเว้น ข้อใด
- ก ชาวดัดซ์
- ข ชาวอังกฤษ
- ค ชาวอเมริกัน
- ง ชาวโปรตุเกส
5. ช่องเขาไคเบอร์เป็นเส้นทางสำคัญที่ชนกลุ่มต่างๆ ผ่านเข้าออกระหว่างเอเชียใต้กับภูมิภาคใด
- ก เอเชียกลาง
- ข เอเชียตะวันตก
- ค เอเชียตะวันออก
- ง เอเชียตะวันตกเฉียงใต้
6. อารยธรรมที่ตกทอดมาจากชาวอารยันคืออะไร
- ก การปกครอง
- ข ระบบวรรณะ
- ค ศาสนาอิสลาม
- ง พระพุทธศาสนา
7. ข้อใดเป็นลักษณะภูมิอากาศของเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
- ก อบอุ่นชื้น
- ข ป่าฝนเมืองร้อน
- ค ร้อนชื้นแบบมรสุม
- ง อบอุ่นแบบเมดิเตอร์เรเนียน
8. ดินแดนรูปพระจันทร์เสี้ยวอยู่บริเวณใด
- ก ลุ่มน้ำสินธุ
- ข ลุ่มน้ำคงคา
- ค ลุ่มน้ำหวางเหอ
- ง ลุ่มน้ำไทกริส–ยูเฟรทีส
9. แหล่งที่รวมความเชื่อ ปรัชญา แหล่งกำเนิดศาสนาของโลก 3 ศาสนา อยู่ในบริเวณใด
- ก เอเชียใต้
- ข เอเชียกลาง
- ค เอเชียตะวันออก
- ง เอเชียตะวันตกเฉียงใต้
10. จักรวรรดิอิสลามเริ่มเสื่อมอำนาจลงเมื่อใด
- ก เกิดสงครามร้อยปี
- ข เกิดสงครามครูเสด
- ค เกิดสงครามกลางเมือง
- ง ไม่มีข้อใดถูก
แบบทดสอบก่อนเรียน7
แบบทดสอบก่อนเรียน 7
1. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงประกาศใช้กฎหมายทำเนียบศักดินาเพื่ออะไร
2. วรรณกรรมเรื่องอะไรแต่งในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
3. ชาติตะวันตกชาติใดที่เข้ามากรุงศรีอยุธยาในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2
4. การทำสารบัญชีในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เกี่ยวข้องกับเรื่องใด
5. คุณธรรมข้อใดของพระสุริโยทัยที่ควรนำมาเป็นแบบอย่าง
6. พระราชกรณียกิจที่สำคัญของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชรองจากประกาศอิสรภาพคืออะไร
7. หนังสือเรียนภาษาไทยเล่มแรกที่แต่งในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชคือเรื่องอะไร
8. เมื่อกอบกู้เอกราชแล้วสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกระทำสิ่งใดก่อน
9. สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้รับตำแหน่งใดใน สมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์
10. เจ้าพระยาสุรสีห์ได้ครองเมืองใด
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7
บุคคลสำคัญสมัยอยุธยาและธนบุรี
1. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงประกาศใช้กฎหมายทำเนียบศักดินาเพื่ออะไร
- ก กำหนดหน้าที่ของขุนนาง
- ข กำหนดศักดินาของเจ้านาย
- ค กำหนดสิทธิหน้าที่ของมูลนายและไพร่
- ง กำหนดอำนาจหน้าที่ของอัครมหาเสนาบดี
2. วรรณกรรมเรื่องอะไรแต่งในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
- ก ลิลิตพระลอและจินดามณี
- ข ลิลิตยวนพ่ายและกาพย์มหาชาติ
- ค มหาชาติคำหลวงและลิลิตยวนพ่าย
- ง ลิลิตโองการแช่งน้ำและพระราชพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐฯ
3. ชาติตะวันตกชาติใดที่เข้ามากรุงศรีอยุธยาในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2
- ก สเปน
- ข อังกฤษ
- ค ฮอลันดา
- ง โปรตุเกส
4. การทำสารบัญชีในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เกี่ยวข้องกับเรื่องใด
- ก การคืนภาษีอากร
- ข การเก็บภาษีอากร
- ค การเอาชนะในการรบ
- ง การสำรวจจำนวนไพร่
5. คุณธรรมข้อใดของพระสุริโยทัยที่ควรนำมาเป็นแบบอย่าง
- ก ความขยัน
- ข ความอดทน
- ค ความซื่อสัตย์
- ง ความกล้าหาญ
6. พระราชกรณียกิจที่สำคัญของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชรองจากประกาศอิสรภาพคืออะไร
- ก การส่งทูตไปจีน
- ข การขยายดินแดน
- ค การทำสงครามยุทธหัตถี
- ง การฟื้นฟูบ้านเมืองหลังสงคราม
7. หนังสือเรียนภาษาไทยเล่มแรกที่แต่งในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชคือเรื่องอะไร
- ก จินดามณี
- ข ปฐม ก กา
- ค มูลบทบรรพกิจ
- ง สมุทรโฆษคำฉันท์
8. เมื่อกอบกู้เอกราชแล้วสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกระทำสิ่งใดก่อน
- ก ปราบจลาจลในเขมร
- ข ส่งกองทัพไปตีเวียงจันทน์
- ค ปราบชุมนุมที่ตั้งตนป็นอิสระ
- ง เตรียมทัพเพื่อยกไปโจมตีพม่า
9. สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้รับตำแหน่งใดใน สมัยสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์
- ก หลวงยกบัตร
- ข พระยายมราช
- ค เจ้าพระยาจักรี
- ง พระยาอภัยรณฤทธิ์
10. เจ้าพระยาสุรสีห์ได้ครองเมืองใด
- ก จันทบุรี
- ข เชียงใหม่
- ค พิษณุโลก
- ง สุพรรณบุรี
แบบทดสอบก่อนเรียน6
แบบทดสอบก่อนเรียน 6
1. ปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้เกิดการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยาและธนบุรีคืออะไร
2. การนำปลามาทำปลาเค็มเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่ทำให้เกิดการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยด้านใดมากที่สุด
3. งานศิลปกรรมส่วนใหญ่ในสมัยอยุธยาเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร
4. ศิลปกรรมสมัยธนบุรีรับแบบอย่างมาจากไหน
5. พระพุทธรูปปางมารวิชัยได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบใด
6. ผลงานชิ้นใดจัดเป็นงานประณีตศิลป์ในสมัยอยุธยา
7. ละครประเภทใดมีการดำเนินเรื่องรวดเร็ว ตลกขบขัน และโลดโผน
8. ลิลิตโองการแช่งน้ำแต่งขึ้นมาเพื่ออะไร
9. วรรณกรรมต่อไปนี้เรื่องใดให้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์มากที่สุด
10. พระราชพิธีเห่เรือจัดขึ้นในเดือนใด
หน่วยการเรียนรู้ที่ 6
ภูมิปัญญาและศิลปวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาและธนบุรี
1. ปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้เกิดการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยสมัยอยุธยาและธนบุรีคืออะไร
- ก อาหารการกิน
- ข วิถีชีวิตความเป็นอยู่
- ค ความเชื่อและศาสนา
- ง ถูกทุกข้อ
2. การนำปลามาทำปลาเค็มเกี่ยวข้องกับปัจจัยที่ทำให้เกิดการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทยด้านใดมากที่สุด
- ก การแพทย์
- ข ความบันเทิง
- ค อาหารการกิน
- ง การประกอบอาชีพ
3. งานศิลปกรรมส่วนใหญ่ในสมัยอยุธยาเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร
- ก ความงามของธรรมชาติ
- ข ความเป็นอยู่ของประชาชน
- ค ความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา
- ง ความเป็นอยู่ของเจ้านายและขุนนาง
4. ศิลปกรรมสมัยธนบุรีรับแบบอย่างมาจากไหน
- ก ลพบุรี
- ข อยุธยาตอนต้น
- ค อยุธยาตอนกลาง
- ง อยุธยาตอนปลาย
5. พระพุทธรูปปางมารวิชัยได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบใด
- ก ศิลปะอู่ทอง
- ข ศิลปะแบบสุโขทัย
- ค ศิลปะแบบเชียงแสน
- ง ศิลปะแบบทวารวดี
6. ผลงานชิ้นใดจัดเป็นงานประณีตศิลป์ในสมัยอยุธยา
- ก สมุดภาพไตรภูมิพระร่วง
- ข พระพุทธรูปสลักด้วยศิลาทรายสีแดง
- ค พระเจดีย์ทรงลังกาวัดพระศรีสรรเพชญ์
- ง ประตูโบสถ์ประดับมุกที่วัดพระศรีมหาธาตุ
7. ละครประเภทใดมีการดำเนินเรื่องรวดเร็ว ตลกขบขัน และโลดโผน
- ก ละครใน
- ข ละครนอก
- ค ละครพื้นบ้าน
- ง ละครดึกดำบรรพ์
8. ลิลิตโองการแช่งน้ำแต่งขึ้นมาเพื่ออะไร
- ก อบรมสั่งสอนขุนนาง
- ข สรรเสริญผู้ทำความดี
- ค ใช้อ่านในพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา
- ง ให้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่นำไปเป็นแนวปฏิบัติ
9. วรรณกรรมต่อไปนี้เรื่องใดให้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์มากที่สุด
- ก ลิลิตพระลอ
- ข ลิลิตยวนพ่าย
- ค กาพย์มหาชาติ
- ง มหาชาติคำหลวง
10. พระราชพิธีเห่เรือจัดขึ้นในเดือนใด
- ก เดือน 9
- ข เดือน 10
- ค เดือน 11
- ง เดือน 12
แบบทดสอบก่อนเรียน5
แบบทดสอบก่อนเรียน 5
1. สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้กรุงศรีอยุธยาสิ้นอำนาจใน พ.ศ. 2310 คืออะไร
2. พระเจ้าตากหนีออกจากกรุงศรีอยุธยาไปรวบรวมผู้คนที่เมืองใด
3. ชุมนุมแรกที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปราบปรามได้สำเร็จคือชุมนุมใด
4. อะไรคือเหตุผลที่สำคัญที่สุดในการเลือกเมืองธนบุรีเป็นราชธานีใหม่แทนกรุงศรีอยุธยา
5. ในสมัยธนบุรีกรมใดที่มีหน้าที่ติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ
6. หัวเมืองใดที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งข้าราชการผู้ใหญ่ไปปกครอง
7. เพราะเหตุใดในสมัยธนบุรีจึงมีการสักเลกไพร่ทุกคน
8. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใช้นโยบายใดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารของราษฎร
9. กรุงธนบุรีมีความเป็นมิตรกับรัฐใดมากที่สุด
10. ชาติตะวันตกชาติใดไม่ได้เข้ามาติดต่อกับกรุงธนบุรี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
1. สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้กรุงศรีอยุธยาสิ้นอำนาจใน พ.ศ. 2310 คืออะไร
- ก พม่ามีกำลังเหนือกว่า
- ข ขาดแคลนเสบียงอาหาร
- ค พม่าใช้กลยุทธ์ไส้ศึกภายใน
- ง ความอ่อนแอทางด้านทหารและการเมือง
2. พระเจ้าตากหนีออกจากกรุงศรีอยุธยาไปรวบรวมผู้คนที่เมืองใด
- ก เมืองตาก
- ข เมืองจันทบุรี
- ค เมืองพิษณุโลก
- ง เมืองกำแพงเพชร
3. ชุมนุมแรกที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปราบปรามได้สำเร็จคือชุมนุมใด
- ก ชุมนุมเจ้าพิมาย
- ข ชุมนุมเจ้าพระฝาง
- ค ชุมนุมเจ้าพระยาพิษณุโลก
- ง ชุมนุมเจ้านครศรีธรรมราช
4. อะไรคือเหตุผลที่สำคัญที่สุดในการเลือกเมืองธนบุรีเป็นราชธานีใหม่แทนกรุงศรีอยุธยา
- ก มีป้อมปราการพร้อม
- ข มีทางหนีออกทะเลสะดวก
- ค อยู่ใกล้ปากน้ำเหมาะแก่การค้า
- ง เป็นเมืองเล็กเหมาะกับกำลังพลที่มีอยู่
5. ในสมัยธนบุรีกรมใดที่มีหน้าที่ติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ
- ก กรมวัง
- ข กรมนา
- ค กรมคลัง
- ง กรมเวียง
6. หัวเมืองใดที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งข้าราชการผู้ใหญ่ไปปกครอง
- ก หัวเมืองชั้นใน
- ข หัวเมืองชั้นนอก
- ค หัวเมืองชั้นจัตวา
- ง หัวเมืองประเทศราช
7. เพราะเหตุใดในสมัยธนบุรีจึงมีการสักเลกไพร่ทุกคน
- ก เพื่อควบคุมกำลังพล
- ข ต้องการจำกัดอำนาจของมูลนาย
- ค ต้องการให้ราษฎรมีระเบียบวินัย
- ง บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามตลอดเวลา
8. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใช้นโยบายใดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารของราษฎร
- ก ทำโรงทานเลี้ยงผู้ที่อดอยาก
- ข ประกาศลงโทษผู้กักตุนสินค้า
- ค ขุดคลองชลประทานเพื่อทำนาปรัง
- ง สละพระราชทรัพย์ซื้อข้าวแจกราษฎร
9. กรุงธนบุรีมีความเป็นมิตรกับรัฐใดมากที่สุด
- ก พม่า
- ข เขมร
- ค ล้านนา
- ง ล้านช้าง
10. ชาติตะวันตกชาติใดไม่ได้เข้ามาติดต่อกับกรุงธนบุรี
- ก อังกฤษ
- ข ฮอลันดา
- ค โปรตุเกส
- ง สหรัฐอเมริกา
แบบทดสอบก่อนเรียน5
แบบทดสอบก่อนเรียน 5
1. สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้กรุงศรีอยุธยาสิ้นอำนาจใน พ.ศ. 2310 คืออะไร
2. พระเจ้าตากหนีออกจากกรุงศรีอยุธยาไปรวบรวมผู้คนที่เมืองใด
3. ชุมนุมแรกที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปราบปรามได้สำเร็จคือชุมนุมใด
4. อะไรคือเหตุผลที่สำคัญที่สุดในการเลือกเมืองธนบุรีเป็นราชธานีใหม่แทนกรุงศรีอยุธยา
5. ในสมัยธนบุรีกรมใดที่มีหน้าที่ติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ
6. หัวเมืองใดที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งข้าราชการผู้ใหญ่ไปปกครอง
7. เพราะเหตุใดในสมัยธนบุรีจึงมีการสักเลกไพร่ทุกคน
8. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใช้นโยบายใดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารของราษฎร
9. กรุงธนบุรีมีความเป็นมิตรกับรัฐใดมากที่สุด
10. ชาติตะวันตกชาติใดไม่ได้เข้ามาติดต่อกับกรุงธนบุรี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5
พัฒนาการของอาณาจักรธนบุรี
1. สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้กรุงศรีอยุธยาสิ้นอำนาจใน พ.ศ. 2310 คืออะไร
- ก พม่ามีกำลังเหนือกว่า
- ข ขาดแคลนเสบียงอาหาร
- ค พม่าใช้กลยุทธ์ไส้ศึกภายใน
- ง ความอ่อนแอทางด้านทหารและการเมือง
2. พระเจ้าตากหนีออกจากกรุงศรีอยุธยาไปรวบรวมผู้คนที่เมืองใด
- ก เมืองตาก
- ข เมืองจันทบุรี
- ค เมืองพิษณุโลก
- ง เมืองกำแพงเพชร
3. ชุมนุมแรกที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปราบปรามได้สำเร็จคือชุมนุมใด
- ก ชุมนุมเจ้าพิมาย
- ข ชุมนุมเจ้าพระฝาง
- ค ชุมนุมเจ้าพระยาพิษณุโลก
- ง ชุมนุมเจ้านครศรีธรรมราช
4. อะไรคือเหตุผลที่สำคัญที่สุดในการเลือกเมืองธนบุรีเป็นราชธานีใหม่แทนกรุงศรีอยุธยา
- ก มีป้อมปราการพร้อม
- ข มีทางหนีออกทะเลสะดวก
- ค อยู่ใกล้ปากน้ำเหมาะแก่การค้า
- ง เป็นเมืองเล็กเหมาะกับกำลังพลที่มีอยู่
5. ในสมัยธนบุรีกรมใดที่มีหน้าที่ติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ
- ก กรมวัง
- ข กรมนา
- ค กรมคลัง
- ง กรมเวียง
6. หัวเมืองใดที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งข้าราชการผู้ใหญ่ไปปกครอง
- ก หัวเมืองชั้นใน
- ข หัวเมืองชั้นนอก
- ค หัวเมืองชั้นจัตวา
- ง หัวเมืองประเทศราช
7. เพราะเหตุใดในสมัยธนบุรีจึงมีการสักเลกไพร่ทุกคน
- ก เพื่อควบคุมกำลังพล
- ข ต้องการจำกัดอำนาจของมูลนาย
- ค ต้องการให้ราษฎรมีระเบียบวินัย
- ง บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามตลอดเวลา
8. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใช้นโยบายใดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารของราษฎร
- ก ทำโรงทานเลี้ยงผู้ที่อดอยาก
- ข ประกาศลงโทษผู้กักตุนสินค้า
- ค ขุดคลองชลประทานเพื่อทำนาปรัง
- ง สละพระราชทรัพย์ซื้อข้าวแจกราษฎร
9. กรุงธนบุรีมีความเป็นมิตรกับรัฐใดมากที่สุด
- ก พม่า
- ข เขมร
- ค ล้านนา
- ง ล้านช้าง
10. ชาติตะวันตกชาติใดไม่ได้เข้ามาติดต่อกับกรุงธนบุรี
- ก อังกฤษ
- ข ฮอลันดา
- ค โปรตุเกส
- ง สหรัฐอเมริกา
แบบทดสอบก่อนเรียน4
แบบทดสอบก่อนเรียน 4
หน่วยการเรียนรู้ที่ 4
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมัยอยุธยา
1. การดำเนินนโยบายทางการเมือง ปัจจัยที่กำหนดให้อยุธยาดำเนินความสัมพันธ์กับต่างชาติมีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร
- ก การขยายอำนาจ
- ข การแลกเปลี่ยนสินค้ากับชาวต่างชาติ
- ค แสดงความเข้มแข็งและอำนาจของอาณาจักร
- ง ให้ต่างชาติเข้ามามากขึ้นเพื่อให้ราษฎรมีความรู้ด้านภาษา
2. การที่อยุธยาได้ผลักดันนโยบายทางการเมืองและขยายอำนาจไปยังรัฐอื่นเพื่อเหตุต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด
- ก บรรณาการ
- ข การเผยแผ่ศาสนา
- ค การขยายดินแดน
- ง การควบคุมเมืองท่า
3. อยุธยามีความสัมพันธ์แบบรัฐบรรณาการกับชาติใด
- ก จีน
- ข ญี่ปุ่น
- ค อังกฤษ
- ง ฝรั่งเศส
4. อยุธยากับญี่ปุ่นมีการค้าขายกันอย่างเสรีและเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็วในสมัยกษัตริย์พระองค์ใด
- ก สมเด็จพระเอกาทศรถ
- ข สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
- ค สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
- ง สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
5. ในสมัยอยุธยากษัตริย์พระองค์ใดเสด็จไปประทับที่เมืองพิษณุโลก
- ก สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
- ข สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
- ค สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1
- ง สมเด็จพระบรมบรมไตรโลกนาถ
6. อาณาจักรใดที่เป็นรัฐกันชนระหว่างอยุธยากับพม่า
- ก อาณาจักรเขมร
- ข อาณาจักรมอญ
- ค อาณาจักรล้านนา
- ง อาณาจักรล้านช้าง
7. อะไรคือสาเหตุที่ทำให้อยุธยากับบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษมีความขัดแย้งกัน
- ก การค้า
- ข ศาสนา
- ค การเมือง
- ง ทรัพยากรธรรมชาติ
8. ชาติตะวันตกที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับอยุธยา มีจุดมุ่งหมายเพื่ออะไร
- ก เผยแพร่วิทยาการ
- ข แสวงหาอาณานิคม
- ค ค้าขายและเผยแผ่ศาสนา
- ง แสวงหาทรัพยากรธรรมชาติ
9. จุดประสงค์สำคัญที่สุดที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส คือเรื่องอะไร
- ก การค้าระหว่างประเทศ
- ข การสร้างพระราชวังใหม่
- ค การให้คานอำนาจกับฮอลันดา
- ง การช่วยเหลือทางด้านวิทยาการสมัยใหม่
10. อยุธยามีสัมพันธไมตรีกับชาติตะวันตกก่อให้เกิดผลดีในด้านใดมากที่สุด
- ก ชาติตะวันตกไม่กล้ารุกรานไทย
- ข ชาวไทยมีโอกาสนับถือคริสต์ศาสนา
- ค อยุธยาเป็นที่รู้จักของชาติตะวันตกมากขึ้น
- ง ได้รับวิทยาการจากชาติตะวันตกมาพัฒนาบ้านเมือง
แบบทดสอบก่อนเรียน3
แบบทดสอบก่อนเรียน 3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3
สังคมและเศรษฐกิจสมัยอยุธยา
1. สมัยอยุธยาใช้ระบบใดในการจัดระเบียบชนชั้นในสังคม
- ก ระบบขุนนาง
- ข ระบบมูลนาย
- ค ระบบศักดินา
- ง ระบบชนชั้นปกครอง
2. ในสังคมอยุธยาคนกลุ่มใดมีจำนวนมากที่สุด
- ก ไพร่
- ข ทาส
- ค ขุนนาง
- ง พระสงฆ์
3. บุคคลใดไม่มีการกำหนดศักดินาไว้
- ก ไพร่
- ข ทาส
- ค พระสงฆ์
- ง พระมหากษัตริย์
4. ไพร่ประเภทใดขึ้นทะเบียนสังกัดพระมหากษัตริย์โดยตรง
- ก ไพร่สม
- ข ไพร่ส่วย
- ค ไพร่ทาส
- ง ไพร่หลวง
5. ข้อใดเป็นพระราชกณียกิจที่สำคัญ ของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ในการทำนุบำรุงพระพุทธ
ศาสนา
- ก สร้างวัด
- ข เสด็จออกผนวช
- ค สังคายนาพระไตรปิฎก
- ง ส่งสมณทูตไปเผยแผ่ศาสนา
6. ในสมัยอยุธยามีการเก็บฤชา อากร ส่วย จากบุคคลกลุ่มใด
- ก ราษฎร
- ข ชาวจีน
- ค ขุนนาง
- ง ชาวตะวันตก
7. กรมท่าซ้ายที่ตั้งในสมัยอยุธยามีหน้าที่เกี่ยวกับอะไร
- ก การค้าภายใน
- ข การค้ากับชาติยุโรป
- ค การค้ากับดินแดนทางตะวันตก
- ง การค้ากับดินแดนทางตะวันออก
8. ในสมัยอยุธยาสินค้าประเภทใดต้องซื้อขายผ่านพระคลังสินค้า
- ก ผ้าแพร
- ข พริกไทย
- ค กำมะถัน
- ง เครื่องปั้นดินเผา
9. อากรประเภทใดเก็บจากผู้ปลูกอ้อย ข้าวโพด
- ก อากรนา
- ข อากรสวน
- ค อากรศุลกากร
- ง อากรสมพัตสร
10. การสร้างและดูแลป้อม ค่าย จัดเป็นค่าใช้จ่ายประเภทใด
- ก เบี้ยหวัด
- ข การทหาร
- ค พระราชพิธี
- ง ราชการพิเศษ
แบบทดสอบก่อนเรียน2
แบบทดสอบก่อนเรียน 2
1. พระเจ้าอู่ทองมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์อย่างไร
2. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่เอื้อต่อการสถาปนาอาณาจักรอยุธยา
3. ใครที่เสนอแนวคิดว่า พระเจ้าอู่ทองเป็นผู้ครองเมืองละโว้ หรือเมืองสุพรรณภูมิมาก่อน
4. ในสมัยอยุธยาตอนต้นกรมใดที่มีหน้าที่ดูแลรักษาพระราชทรัพย์ และผลประโยชน์ของอาราจักร
5. เมืองในข้อใดจัดเป็นเมืองลูกหลวงในสมัยอยุธยาตอนต้น
6. กฎหมายใดที่ลงโทษผู้ละเมิดพระราชโองการ พระราชบัญญัติ
7. "พระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์กลางอำนาจทางการเมือง" คำกล่าวนี้มีความหมายตรงกับข้อใดมากที่สุด
8. กฎหมายฉบับใดที่จำแนกฐานะทางสังคมของชาวอยุธยาตั้งแต่ชนชั้นสูงสุดจนถึงต่ำสุด
9. อะไรเป็นปัจจัยที่เป็นสาเหตุแห่งความเสื่อมของอาณาจักรอยุธยา
10. พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยาคือใคร
1. พระเจ้าอู่ทองมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์อย่างไร
- ก กู้เอกราชจากพม่า
- ข รวมสุโขทัยกับอยุธยาเข้าด้วยกัน
- ค สถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
- ง ปกครองบ้านเมืองแบบพ่อปกครองลูก
2. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่เอื้อต่อการสถาปนาอาณาจักรอยุธยา
- ก ช่องว่างทางการเมือง
- ข ความมั่นคงทางยุทธศาสตร์
- ค ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่
- ง การให้ความช่วยเหลือจากต่างชาติ
3. ใครที่เสนอแนวคิดว่า พระเจ้าอู่ทองเป็นผู้ครองเมืองละโว้ หรือเมืองสุพรรณภูมิมาก่อน
- ก ซีมง เดอ ลาลูแบร์
- ข นายตรี อมาตยกุล
- ค หลวงประเสริฐอักษรนิติ์
- ง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
4. ในสมัยอยุธยาตอนต้นกรมใดที่มีหน้าที่ดูแลรักษาพระราชทรัพย์ และผลประโยชน์ของอาราจักร
- ก กรมวัง
- ข กรมนา
- ค กรมคลัง
- ง กรมเวียง
5. เมืองในข้อใดจัดเป็นเมืองลูกหลวงในสมัยอยุธยาตอนต้น
- ก ลพบุรี ปราจีนบุรี ถลาง
- ข ทวาย ตะนาวศรี สงขลา
- ค พระประแดง ลพบุรี นครนายก
- ง นครศรีธรรมราช เพชรบุรี สุพรรณบุรี
6. กฎหมายใดที่ลงโทษผู้ละเมิดพระราชโองการ พระราชบัญญัติ
- ก กฎมณเทียรบาล พ.ศ. 2011
- ข กฎหมายลักษณะอาญาหลวง (เพิ่มเติม)
- ค กฎหมายลักษณะอาญาขบถศึก พ.ศ. 2000
- ง พระไอยการตำแหน่งนาพลเรือน พ.ศ. 1998
7. "พระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์กลางอำนาจทางการเมือง" คำกล่าวนี้มีความหมายตรงกับข้อใดมากที่สุด
- ก ทรงเป็นจอมทัพ
- ข ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
- ค ทรงเป็นประมุขของชาติ
- ง ทรงควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน
8. กฎหมายฉบับใดที่จำแนกฐานะทางสังคมของชาวอยุธยาตั้งแต่ชนชั้นสูงสุดจนถึงต่ำสุด
- ก กฎมณเฑียรบาล พ.ศ. 2011
- ข กฎหมายลักษณอาญาขบถศึก พ.ศ. 2000
- ค พระไอยการตำแหน่งนาพลเรือน พ.ศ. 1998
- ง พระไอยการตำแหน่งนาทหารหัวเมือง พ.ศ. 1998
9. อะไรเป็นปัจจัยที่เป็นสาเหตุแห่งความเสื่อมของอาณาจักรอยุธยา
- ก ความเข้มแข็งของอาณาจักรพม่า
- ข ความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
- ค การแย่งชิงอำนาจของขุนนางและเจ้านาย
- ง ถูกทุกข้อ
10. พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยาคือใคร
- ก สมเด็จพระเพทราชา
- ข สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
- ค สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช
- ง สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์
แบบทดสอบก่อนเรียน1
แบบทดสอบก่อนเรียน 1
1. ร่องรอยการกระทำของมนุษย์ในอดีตที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันเรียกว่าอะไร
2. ข้อใดเป็นหลักฐานชั้นรอง
3. ข้อใดเป็นการแบ่งประเภทหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตามความสำคัญ
4. ลิลิตยวนพ่ายใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์สมัยใด
5. การพิจารณาสาระที่อยู่ในหลักฐานว่าบอกเล่าเรื่องราวอะไรบ้าง เรียกว่าอะไร
6. เพราะเหตุใดจึงต้องมีการประเมินภายนอก
7. หลักฐานประเภทใดไม่ควรใช้ในการศึกษาประวัติศาสตร์
8. การทำความเข้าใจว่าหลักฐานให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริง อะไร เป็นขั้นตอนใดของวิธีการทางประวัติศาสตร์
9. สิ่งใดที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานสนับสนุน
10. การตีความขั้นต้นจะทำไม่ได้เลยถ้าผู้ตีความขาดความรู้เรื่องอะไร
1. ร่องรอยการกระทำของมนุษย์ในอดีตที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันเรียกว่าอะไร
- ก วิธีการทางประวัติศาสตร์
- ข หลักฐานทางประวัติศาสตร์
- ค เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์
- ง กระบวนการทางประวัติศาสตร์
2. ข้อใดเป็นหลักฐานชั้นรอง
- ก อนุสาวรีย์บุคคลสำคัญ
- ข โบราณสถานโบราณวัตถุ
- ค หนังสือพิมพ์ที่รายงานข่าว
- ง จดหมายเล่าเรื่องราวต่าง ๆ
3. ข้อใดเป็นการแบ่งประเภทหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตามความสำคัญ
- ก หลักฐานชั้นต้นกับหลักฐานชั้นรอง
- ข เป็นลายลักษณ์อักษรกับไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
- ค หลักฐานที่มนุษย์สร้างขึ้นกับหลักฐานทางธรรมชาติ
- ง หลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์กับหลักฐานทางประวัติศาสตร์
4. ลิลิตยวนพ่ายใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์สมัยใด
- ก สมัยสุโขทัย
- ข สมัยอยุธยา
- ค สมัยธนบุรี
- ง สมัยรัตนโกสินทร์ตแอนต้น
5. การพิจารณาสาระที่อยู่ในหลักฐานว่าบอกเล่าเรื่องราวอะไรบ้าง เรียกว่าอะไร
- ก การประเมินภายใน
- ข การวิพากษ์ภายนอก
- ค การประเมินภายนอก
- ง การตรวจสอบหลักฐาน
6. เพราะเหตุใดจึงต้องมีการประเมินภายนอก
- ก เพื่อดูว่าข้อมูลเชื่อถือได้หรือไม่
- ข เพื่อต้องการช่วงเวลาของหลักฐาน
- ค เพื่อต้องการรู้วิธีการนำเสนอข้อมูล
- ง เพื่อให้รู้ว่าหลักฐานนั้นจริงหรือปลอม
7. หลักฐานประเภทใดไม่ควรใช้ในการศึกษาประวัติศาสตร์
- ก หลักฐานปลอม
- ข หลักฐานที่เขียนหลังเหตุการณ์
- ค หลักฐานที่ให้ข้อมูลจริงบ้างเท็จบ้าง
- ง ไม่มีข้อใดถูก
8. การทำความเข้าใจว่าหลักฐานให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริง อะไร เป็นขั้นตอนใดของวิธีการทางประวัติศาสตร์
- ก การตีความ
- ข การประเมินหลักฐาน
- ค การรวบรวมหลักฐาน
- ง การเรียบเรียงและนำเสนอ
9. สิ่งใดที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานสนับสนุน
- ก ความจริง
- ข ข้อเท็จจริง
- ค ความคิดเห็น
- ง ถูกทุกข้อ
10. การตีความขั้นต้นจะทำไม่ได้เลยถ้าผู้ตีความขาดความรู้เรื่องอะไร
- ก อายุของหลักฐาน
- ข ประวัติของผู้สร้างหลักฐาน
- ค สภาพสังคมในช่วงเวลาที่สร้างหลักฐาน
- ง ความหมายของถ้อยคำสำนวนในหลักฐาน
เเบบทดสอบประเมิน1
แบบทดสอบประเมิน 1
1. ร่องรอยการกระทำของมนุษย์ในอดีตที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันเรียกว่าอะไร
2. ข้อใดเป็นหลักฐานชั้นรอง
3. ข้อใดเป็นการแบ่งประเภทหลักฐานทางประวัติ- ศาสตร์ ตามความสำคัญ
4. ลิลิตยวนพ่ายใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์สมัยใด
5. การพิจารณาสาระที่อยู่ในหลักฐานว่าบอกเล่าเรื่องราว อะไรบ้าง เรียกว่าอะไร
6. เพราะเหตุใดจึงต้องมีการประเมินภายนอก
7. หลักฐานประเภทใดไม่ควรใช้ในการศึกษา ประวัติศาสตร์
8. การทำความเข้าใจว่าหลักฐานให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริง อะไร เป็นขั้นตอนใดของวิธีการทางประวัติศาสตร์
9. สิ่งใดที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานสนับสนุน
10. การตีความขั้นต้นจะทำไม่ได้เลยถ้าผู้ตีความขาดความรู้เรื่องอะไร
11. พระเจ้าอู่ทองมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์อย่างไร
12. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่เอื้อต่อการสถาปนาอาณาจักรอยุธยา
13. ใครที่เสนอแนวคิดว่า พระเจ้าอู่ทองเป็นผู้ครองเมืองละโว้ หรือเมืองสุพรรณภูมิมาก่อน
14. ในสมัยอยุธยาตอนต้นกรมใดที่มีหน้าที่ดูแลรักษาพระราชทรัพย์ และผลประโยชน์ของอาราจักร
15. เมืองในข้อใดจัดเป็นเมืองลูกหลวงในสมัยอยุธยาตอนต้น
16. กฎหมายใดที่ลงโทษผู้ละเมิดพระราชโองการพระราชบัญญัติ
17. "พระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์กลางอำนาจทางการเมือง" คำกล่าวนี้มีความหมายตรงกับข้อใดมากที่สุด
18. กฎหมายฉบับใดที่จำแนกฐานะทางสังคมของชาวอยุธยาตั้งแต่ชนชั้นสูงสุดจนถึงต่ำสุด
19. อะไรเป็นปัจจัยที่เป็นสาเหตุแห่งความเสื่อมของอาณาจักรอยุธยา
20. พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยาคือใคร
21. สมัยอยุธยาใช้ระบบใดในการจัดระเบียบชนชั้นในสังคม
22. ในสังคมอยุธยาคนกลุ่มใดมีจำนวนมากที่สุด
23. บุคคลใดไม่มีการกำหนดศักดินาไว้
24. ไพร่ประเภทใดขึ้นทะเบียนสังกัดพระมหากษัตริย์โดยตรง
25. ข้อใดเป็นพระราชกณียกิจที่สำคัญของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
26. ในสมัยอยุธยามีการเก็บฤชา อากร ส่วย จากบุคคลกลุ่มใด
27. กรมท่าซ้ายที่ตั้งในสมัยอยุธยามีหน้าที่เกี่ยวกับอะไร
28. ในสมัยอยุธยาสินค้าประเภทใดต้องซื้อขายผ่านพระคลังสินค้า
29. อากรประเภทใดเก็บจากผู้ปลูกอ้อย ข้าวโพด
30. การสร้างและดูแลป้อม ค่าย จัดเป็นค่าใช้จ่ายประเภทใด
1. ร่องรอยการกระทำของมนุษย์ในอดีตที่ยังหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันเรียกว่าอะไร
- 1) วิธีการทางประวัติศาสตร์
- 2) หลักฐานทางประวัติศาสตร์
- 3) เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์
- 4) กระบวนการทางประวัติศาสตร์
2. ข้อใดเป็นหลักฐานชั้นรอง
- 1) อนุสาวรีย์บุคคลสำคัญ
- 2) โบราณสถานโบราณวัตถุ
- 3) หนังสือพิมพ์ที่รายงานข่าว
- 4) จดหมายเล่าเรื่องราวต่าง ๆ
3. ข้อใดเป็นการแบ่งประเภทหลักฐานทางประวัติ- ศาสตร์ ตามความสำคัญ
- 1) หลักฐานชั้นต้นกับหลักฐานชั้นรอง
- 2) เป็นลายลักษณ์อักษรกับไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
- 3) หลักฐานที่มนุษย์สร้างขึ้นกับหลักฐานทางธรรมชาติ
- 4) หลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์กับหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์
4. ลิลิตยวนพ่ายใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์สมัยใด
- 1) สมัยสุโขทัย
- 2) สมัยอยุธยา
- 3) สมัยธนบุรี
- 4) สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
5. การพิจารณาสาระที่อยู่ในหลักฐานว่าบอกเล่าเรื่องราว อะไรบ้าง เรียกว่าอะไร
- 1) การประเมินภายใน
- 2) การวิพากษ์ภายนอก
- 3) การประเมินภายนอก
- 4) การตรวจสอบหลักฐาน
6. เพราะเหตุใดจึงต้องมีการประเมินภายนอก
- 1) เพื่อดูว่าข้อมูลเชื่อถือได้หรือไม่
- 2) เพื่อต้องการช่วงเวลาของหลักฐาน
- 3) เพื่อต้องการรู้วิธีการนำเสนอข้อมูล
- 4) เพื่อให้รู้ว่าหลักฐานนั้นจริงหรือปลอม
7. หลักฐานประเภทใดไม่ควรใช้ในการศึกษา ประวัติศาสตร์
- 1) หลักฐานปลอม
- 2) หลักฐานที่เขียนหลังเหตุการณ์
- 3) หลักฐานที่ให้ข้อมูลจริงบ้างเท็จบ้าง
- 4) ไม่มีข้อใดถูก
8. การทำความเข้าใจว่าหลักฐานให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริง อะไร เป็นขั้นตอนใดของวิธีการทางประวัติศาสตร์
- 1) การตีความ
- 2) การประเมินหลักฐาน
- 3) การรวบรวมหลักฐาน
- 4) การเรียบเรียงและนำเสนอ
9. สิ่งใดที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานสนับสนุน
- 1) ความจริง
- 2) ข้อเท็จจริง
- 3) ความคิดเห็น
- 4) ถูกทุกข้อ
10. การตีความขั้นต้นจะทำไม่ได้เลยถ้าผู้ตีความขาดความรู้เรื่องอะไร
- 1) อายุของหลักฐาน
- 2) ประวัติของผู้สร้างหลักฐาน
- 3) สภาพสังคมในช่วงเวลาที่สร้างหลักฐาน
- 4) ความหมายของถ้อยคำสำนวนในหลักฐาน
11. พระเจ้าอู่ทองมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์อย่างไร
- 1) กู้เอกราชจากพม่า
- 2) รวมสุโขทัยกับอยุธยาเข้าด้วยกัน
- 3) สถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
- 4) ปกครองบ้านเมืองแบบพ่อปกครองลูก
12. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยที่เอื้อต่อการสถาปนาอาณาจักรอยุธยา
- 1) ช่องว่างทางการเมือง
- 2) ความมั่นคงทางยุทธศาสตร์
- 3) ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่
- 4) การให้ความช่วยเหลือจากต่างชาติ
13. ใครที่เสนอแนวคิดว่า พระเจ้าอู่ทองเป็นผู้ครองเมืองละโว้ หรือเมืองสุพรรณภูมิมาก่อน
- 1) ซี มง เดอ ลาลูแบร์
- 2) นายตรี อมาตยกุล
- 3) หลวงประเสริฐอักษรนิติ์
- 4) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
14. ในสมัยอยุธยาตอนต้นกรมใดที่มีหน้าที่ดูแลรักษาพระราชทรัพย์ และผลประโยชน์ของอาราจักร
- 1) กรมวัง
- 2) กรมนา
- 3) กรมคลัง
- 4) กรมเวียง
15. เมืองในข้อใดจัดเป็นเมืองลูกหลวงในสมัยอยุธยาตอนต้น
- 1) ลพบุรี ปราจีนบุรี ถลาง
- 2) ทวาย ตะนาวศรี สงขลา
- 3) พระประแดง ลพบุรี นครนายก
- 4) นครศรีธรรมราช เพชรบุรี สุพรรณบุรี
16. กฎหมายใดที่ลงโทษผู้ละเมิดพระราชโองการพระราชบัญญัติ
- 1) กฎมณเทียรบาล พ.ศ. 2011
- 2) กฎหมายลักษณะอาญาหลวง (เพิ่มเติม)
- 3) กฎหมายลักษณะอาญาขบถศึก พ.ศ. 2000
- 4) พระไอยการตำแหน่งนาพลเรือน พ.ศ. 1998
17. "พระมหากษัตริย์ทรงเป็นศูนย์กลางอำนาจทางการเมือง" คำกล่าวนี้มีความหมายตรงกับข้อใดมากที่สุด
- 1) ทรงเป็นจอมทัพ
- 2) ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
- 3) ทรงเป็นประมุขของชาติ
- 4) ทรงควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน
18. กฎหมายฉบับใดที่จำแนกฐานะทางสังคมของชาวอยุธยาตั้งแต่ชนชั้นสูงสุดจนถึงต่ำสุด
- 1) กฎมณเฑียรบาล พ.ศ. 2011
- 2) กฎหมายลักษณอาญาขบถศึก พ.ศ. 2000
- 3) พระไอยการตำแหน่งนาพลเรือน พ.ศ. 1998
- 4) พระไอยการตำแหน่งนาทหารหัวเมือง พ.ศ. 1998
19. อะไรเป็นปัจจัยที่เป็นสาเหตุแห่งความเสื่อมของอาณาจักรอยุธยา
- 1) ความเข้มแข็งของอาณาจักรพม่า
- 2) ความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
- 3) การแย่งชิงอำนาจของขุนนางและเจ้านาย
- 4) ถูกทุกข้อ
20. พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยาคือใคร
- 1) สมเด็จพระเพทราชา
- 2) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
- 3) สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช
- 4) สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์
21. สมัยอยุธยาใช้ระบบใดในการจัดระเบียบชนชั้นในสังคม
- 1) ระบบขุนนาง
- 2) ระบบมูลนาย
- 3) ระบบศักดินา
- 4) ระบบชนชั้นปกครอง
22. ในสังคมอยุธยาคนกลุ่มใดมีจำนวนมากที่สุด
- 1) ไพร่
- 2) ทาส
- 3) ขุนนาง
- 4) พระสงฆ์
23. บุคคลใดไม่มีการกำหนดศักดินาไว้
- 1) ไพร่
- 2) ทาส
- 3) พระสงฆ์
- 4) พระมหากษัตริย์
24. ไพร่ประเภทใดขึ้นทะเบียนสังกัดพระมหากษัตริย์โดยตรง
- 1) ไพร่สม
- 2) ไพร่ส่วย
- 3) ไพร่ทาส
- 4) ไพร่หลวง
25. ข้อใดเป็นพระราชกณียกิจที่สำคัญของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
- 1) สร้างวัด
- 2) เสด็จออกผนวช
- 3) สังคายนาพระไตรปิฎก
- 4) ส่งสมณทูตไปเผยแผ่ศาสนา
26. ในสมัยอยุธยามีการเก็บฤชา อากร ส่วย จากบุคคลกลุ่มใด
- 1) ราษฎร
- 2) ชาวจีน
- 3) ขุนนาง
- 4) ชาวตะวันตก
27. กรมท่าซ้ายที่ตั้งในสมัยอยุธยามีหน้าที่เกี่ยวกับอะไร
- 1) การค้าภายใน
- 2) การค้ากับชาติยุโรป
- 3) การค้ากับดินแดนทางตะวันตก
- 4) การค้ากับดินแดนทางตะวันออก
28. ในสมัยอยุธยาสินค้าประเภทใดต้องซื้อขายผ่านพระคลังสินค้า
- 1) ผ้าแพร
- 2) พริกไทย
- 3) กำมะถัน
- 4) เครื่องปั้นดินเผา
29. อากรประเภทใดเก็บจากผู้ปลูกอ้อย ข้าวโพด
- 1) อากรนา
- 2) อากรสวน
- 3) อากรศุลกากร
- 4) อากรสมพัตสร
30. การสร้างและดูแลป้อม ค่าย จัดเป็นค่าใช้จ่ายประเภทใด
- 1) เบี้ยหวัด
- 2) การทหาร
- 3) พระราชพิธี
- 4) ราชการพิเศษ
ใบงานที่3
ใบงานที่ 3
ให้ตอบคำถามต่อไปนี้
ตัวชี้วัด 1.ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ ( ส 4.1 ม.2/1 )
2.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส4.1 ม.2/2)
3.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส4.1 ม.2/3)
แนวคำตอบ : ………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
ตัวชี้วัด 1.ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ ( ส 4.1 ม.2/1 )
2.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส4.1 ม.2/2)
3.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส4.1 ม.2/3)
แนวคำตอบ : …………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
ตัวชี้วัด 1.ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ (ส 4.1 ม.2/1 )
2.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส 4.1 ม.2/2)
3.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส 4.1 ม.2/3)
ให้ตอบคำถามต่อไปนี้
- 1.ให้นักเรียนยกตัวอย่างหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยที่อยู่ในท้องถิ่นของตนเองมา 1 อย่าง พร้อมเขียนประเมินความน่าเชื่อถืออย่างสมเหตุผล
ตัวชี้วัด 1.ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ ( ส 4.1 ม.2/1 )
2.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส4.1 ม.2/2)
3.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส4.1 ม.2/3)
แนวคำตอบ : ………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
- 2.จากบทเรียนที่นักเรียนได้เรียนรู้มานี้ นักเรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร อธิบาย
ตัวชี้วัด 1.ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ ( ส 4.1 ม.2/1 )
2.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส4.1 ม.2/2)
3.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส4.1 ม.2/3)
แนวคำตอบ : …………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
- ให้นักเรียนเขียนแผนผังความคิดเกี่ยวกับการประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งการวิเคราะห์และตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตามความเข้าใจของตนเอง
ตัวชี้วัด 1.ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ (ส 4.1 ม.2/1 )
2.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส 4.1 ม.2/2)
3.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส 4.1 ม.2/3)
ใบงานที่2
ใบงานที่ 2
ตัวชี้วัด 1.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส4.1 ม.2/2)
2.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส4.1 ม.2/3)
แนวคำตอบ : ………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
2. จากเรื่องที่ 2 ที่ได้เรียนมานักเรียนคิดว่าการวิเคราะห์และตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้ประโยชน์อย่างไรต่อการศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ตอบตามความคิดเห็นตนเอง
ตัวชี้วัด 1.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส4.1 ม.2/2)
2.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางปะวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส4.1 ม.2/3)
แนวคำตอบ : ………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
ตัวชี้วัด 1.ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ ( ส4.1 ม.2/1 )
2.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส4.1 ม.2/2)
3.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส4.1 ม.2/3)
แนวคำตอบ …………………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………..
เรื่องที่ 2 การวิเคราะห์และตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์
- นักเรียนตอบคำถามพัฒนาการคิดแล้วจัดทำรายงานแสดงความเข้าใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์และตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ตัวชี้วัด 1.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส4.1 ม.2/2)
2.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส4.1 ม.2/3)
แนวคำตอบ : ………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
2. จากเรื่องที่ 2 ที่ได้เรียนมานักเรียนคิดว่าการวิเคราะห์และตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้ประโยชน์อย่างไรต่อการศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ตอบตามความคิดเห็นตนเอง
ตัวชี้วัด 1.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส4.1 ม.2/2)
2.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางปะวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส4.1 ม.2/3)
แนวคำตอบ : ………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
- ให้นักเรียนไปค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในสมัยอยุธยาและสมัยธนบุรีที่มีอยู่ในท้องถิ่นของนักเรียน หรือที่นักเรียนรู้จักหรือมีความสนใจจัดทำเป็นรายงานการวิเคราะห์และตีความข้อมูลที่ได้จากหลักฐานชิ้นนั้น
ตัวชี้วัด 1.ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ ( ส4.1 ม.2/1 )
2.วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ (ส4.1 ม.2/2)
3.เห็นความสำคัญของการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ (ส4.1 ม.2/3)
แนวคำตอบ …………………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………..
ใบงานที่1
ใบงานที่ 1
เรื่องที่ 1 ความเข้าใจในหลักฐานทางประวัติศาสตร์
- นักเรียนตอบคำถามพัฒนาการคิดแล้วจัดทำรายงานแสดงความเข้าใจเกี่ยวกับการประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์
- นักเรียนมีหลักในการประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างไร
ตัวชี้วัด ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ (
ส4.1 ม.2/1)
แนวคำตอบ : ………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
- หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีความน่าเชื่อถือควรมีลักษณะอย่างไร
ตอบตามความคิดเห็นของตนเอง
ตัวชี้วัด ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ (
ส4.1 ม.2/1)
แนวคำตอบ : ………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………..
- ให้นักเรียนรวบรวมภาพหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในสมัยอยุธยาและสมัยธนบุรีที่นักเรียนรู้จัก
โดยให้ค้นคว้าจากแหล่งการเรียนรู้
ตัวชี้วัด ประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ
( ส4.1 ม.2/1)
แนวคำตอบ: ……………………………………………………………………………………..........…………...…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………………………………………….…….......…………………………………………..................………………………………………..…….…...…………………………………………………………………………………………...................….……………………………………………………………………………………………………........................................................
วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
สัปดาห์ที่20
วีธีการทางประวัติศาตร์และหลักฐานทางประวัติศาสตร์
วิธีการทางประวัติศาสตร์ หมายถึง กระบวนการสีบค้นเรื่องราวในอดีตของสังคมมนุษย์ เริ่มต้นที่ความอยากรู้อยากเห็นของผู้ต้องการศึกษาและต้องการสอบสวนค้นคว้าหาคำตอบด้วยตนเอง จากร่องรอยของคนในอดีตได้ทำไว้และตกทอดเหลือมาถึงปัจจุบัน โดยไม่หลงเชื่อคำพูดของใครคนใดคนหนึ่ง หรืออ่านหนังสือเพียงเริ่มใดเล่มหนึ่งแล้วเชื่อว่าเป็นจริง สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกของการสืบค้นอดีต เมื่อมีประเด็นที่ต้องการสืบค้นแล้วคือการเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างกว้างขวางและละเอียดละออ ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น สอบถามผู้รู้ ศึกษาเอกสาร เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ด้วยตนเอง ตรวจสอบข้อมูลจากหลักฐานทุกชนิดด้วยจิตสำนึกว่า หลักฐานไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด หรือบอกความจริงเสมอไป แล้วรวบรวมข้อเท็จจริงที่ได้จากนั้นนำเสนอผลที่ศึกษาได้พร้องอ้างอิงหลักฐานให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้อื่นตรวจสอบ หรือศึกษาค้นคว้าต่อไปได้
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)





